ค่าบริการราคา 10,998.- ไม่รวมค่าทิปไกด์ และคนขับรถ 300.-
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์
02.00น. คณะออกเดินทางสู่จังหวัดหนองคาย (หรือคณะจากกุฉินารายณ์ แวะรับสกลนคร คณะจากร้อยเอ็ดแวะรับขอนแก่น)
06.30น. คณะเดินทางถึงเมืองหนองคาย รับประทานอาหารเช้า ณ ร้านระหว่างทางใกล้ด่านจากนั้นพาท่านด่านสู่สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 1 นำทางผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองหลังพิธีการ นำท่านเดินทางเข้าสู่ สปป.ลาว เดินทางสู่นครหลวงเวียงจันทน์ ไปรับประทานเช้าเป็นเฝ๋อ ที่นครหลวงเวียงจันทน์(มื้อที่ 1)
เมื่อถึงตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ เช็คอินใจกลางเมือง ชมความงามของประตูชัยสัญลักษณ์ของนครหลวงเวียงจันทน์ สัมผัสความงามสถาปัตยกรรม ที่ผสมผสานศิลปะลาวกับฝรั่งเศส ท่านสามารถหามุมถ่ายรูปได้ทั้งทางด้านหน้า ทางด้านภายในซุ้มประตู
หลังจากนั้น นำท่านนมัสการด้านนอกของ พระธาตุหลวงหรือ (พระธาตเจดีย์โลกาจุฬามณี) นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญของชาวนครหลวงเวียงจันทน์ และชาวลาว ตำนานกล่าวว่า หลังจากสร้างพระธาตุพนม พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ ผู้ครองเวียงจันทน์ ได้ทำพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองราชคฤห์ไว้ที่นี่
10:00น. นำทางเช็คอินรถไฟความเร็วสูงEMUลาว-จีน จากนครหลวงเวียงจันทน์สู่หลวงพระบาง (ออกเดินทาง 11.05น.)
บัตรโดยสารลูกค้าไม่สามารถระบุที่นั่งได้เนื่องจากบัตรโดยสารมีการ random ตลอดเวลาขอภัยในกรณีที่ท่านไม่ได้นั่งติดกัน แต่สามารถเปลี่ยนที่นั่งกันได้ และขอความกรุณาท่านถือกระเป๋าสัมภาระขึ้นขบวนรถไฟด้วยตัวท่านเอง
13:05 น. เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง EMUลาว-จีน ถึงเมืองหลวงพระบาง ระหว่างทางให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับรถไฟสายแรกที่เชื่อมจีนกับอาเซี่ยนมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองมรดกโลก ท่านจะได้สัมผัสวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ผ่านอุโมงค์ลอดภูเขา ข้ามแม่น้ำ ผ่านหมู่บ้าน ชมทุ่งนาป่าเขาที่สวยงามได้อย่างเต็มอิ่ม ถ่ายรูปเก็บความประทับใจได้ตลอดเวลาประมาณ 120 นาทีกลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ร้านอาหารที่หลวงพระบาง(มื้อที่ 2)
นำท่านเปลี่ยนพาหนะเป็นรถตู้ไปชมธรรมชาติ นอกเมืองกันก่อน ที่น้ำตกที่สวยที่สุดของแขวงที่มีชื่อว่า ตาดกวางสี
น้ำตกตาดกวางสีที่ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง 32 กิโลเมตร ตาดกวางสีเป็นน้ำตกที่สวยชวนน่าหลงใหลในหลวงพระบาง น้ำของที่นี่ใสแจ๋วสีเขียวมรกต มีป่าไม้ร่มรื่นปกคลุมสายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาตามภาหินปูนรวมกันจนกลายเป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกตด้านล่าง ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามจนถูกขนานนามว่าน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง จุดชมวิวต่างๆจะมีสะพานไม้ให้ได้ถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่สะดวกสบาย
ในสมัยก่อนมีตำนานของน้ำตกเล่าว่ามีเทวดาผู้มีฤทธิ์องค์หนึ่ง ได้ใช้เขาของกวางขุดลงไปในพื้นดินจนน้ำผุดขึ้นมา เกิดเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ต่อมาได้มีกวางทองหนุ่มมากินน้ำ และเห็นเป็นที่ที่อุดมสมบูรณ์ จึงเข้าไปอาศัยอยู่โพรงถ้ำบริเวณหน้าผาติดกับน้ำตก เมื่อชาวบ้านมาพบเห็นน้ำตกที่เกิดขึ้นใหม่และมีกวางทองมาอาศัย เลยเรียกบริเวณนี้ว่า กวางสี หมายถึง กวางหนุ่มที่เขาเพิ่งเริ่มงอก จนเป็นที่มาของชื่อน้ำตกจนถึงปัจจุบัน
17:00น. เดินทางกลับจากน้ำตกตาดกวางสีถึงหลวงพระบางนำทางตรวจสัมภาระและเดินทางขึ้นรถตู้วีไอพีปรับอากาศเข้าสู่เมืองหลวงพระบาง และ เมืองมรดกโลก นำท่านเข้าที่พักเพื่อเช็คอินโรงแรม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารมีชัยผล(มื้อ 3)
หลังจากอิ่มอร่อยกันแล้ว พาท่านเดินเล่นถนนคนเดินและตลาดชนเผ่า (ตลาดมืด) บริเวณด้านหน้าพระราชวังเก่าบนถนนศรีสว่างวงศ์ ถนนคนเดินของที่นี่เรียกภาษาลาวว่า ตลาดมืด เลือกชมสินค้าท้องถิ่นของที่ระลึกของฝากที่น่าซื้อมากมาย จากนั้นพาท่านเข้ายังตลาดชนเผ่าที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลาย ทั้งบุฟเฟ่ต์ซาวพันอันโด่งดัง ตำหมากหุ่งแซบๆกับปิ้งไก่ปิ้งปลาแม่น้ำ เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้วพาท่านกลับที่พักหรือท่านใดอยากท่องราตรีต่อตามอัธยาศัย แนะนำร้านราตรีเมืองซัว ร้านอาหารกึ่งผับแบบย้อนยุค ที่มีการเต้นบาสโลปที่สวยงาม(เที่ยวอิสระตามอัทธยาศัย)
เช้า รับวันใหม่นำท่านร่วมพิธีกรรมอันสำคัญยิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวหลวงพระบางคือพิธีการตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งจะมีพระสงฆ์ในแต่ละคุ้มวัดออกมารับบิณฑบาตในตอนเช้าจะมีพระมาบิณฑบาตในทุกๆวัน 200 ถึง 300 รูป ร่วมตักบาตรที่บริเวณวัดมหาธาตุไปจนถึงหน้าวัดสีบุญเรือง การตักบาตรข้าวเหนียวในตอนเช้าที่หลวงพระบาง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยังคงสืบทอดต่อเนื่องกันมายาวนานโดยการตักบาตรข้าวเหนียวนั้น ชาวบ้านจะฟังเสียงกลองจากทางวัด เป็นสัญญาณบอกเพื่อให้เตรียมตัวปูเสื่อรอริมทางเดินที่พระท่านจะบิณฑบาต สำหรับการแต่งกายผู้หญิงจะนุ่งผ้าซิ่น มีผ้าเบี่ยงหรือผ้าสไบพาดไหล่ ผู้ชายจะนุ่งกางเกงขายาวและมีผ้าพาดเช่นกัน
จากนั้นเดินเที่ยวตลาดเช้าหลวงพระบาง ตลาดที่นี่เปิดตั้งแต่ตี 5 ถึง10โมงเช้า เป็นตลาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพราะเต็มไปด้วยของพื้นเมืองแปลกๆที่ชาวบ้านมานั่งขายกันเอง เช่น ของมาจากป่า สมุนไพรหายาก ขนมโบราณ ผักที่ชาวบ้านปลูกเอง ถ้าใครชอบอาหารแบบท้องถิ่นต้องไม่พลาด ของฝากขึ้นชื่อ อาทิ สาหร่ายแผ่นปรุงรส เห็ดกระด้าง ขนมขี้หนู แจ่วบอง จากนั้นทานอาหารเช้าที่โรงแรม หรือที่ร้าน ประชานิยม ริมฝั่งโขง (มื้อที่4)
นำเที่ยวหลวงพระบาง เมืองที่หลายคนหลงเสน่ห์ในวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ถ้าท่านมาถูกช่วงเวลา ท่านจะได้เข้าร่วมงานประเพณีต่างๆที่มีจัดขึ้นตลอดทั้งปี
เดินทางสู่วัดวิชุนนะราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของเมืองหลวงพระบาง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนวนาราช วัดวิชุนราช ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองหลวงพระบาง ถนนวิชุนราช สร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ. 2046 ในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในบรรดาวัดทั้งหมดในเมืองหลวงพระบางเป็นต้องยกนิ้วให้วัดวิชุนในเรื่องมีความแปลกที่พระธาตุรูปร่างโค้งมนเหมือนผลแตงโม และเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เอง ที่กระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรมของลาวยกให้มีความสำคัญและความโดดเด่นของวัดวิชุน วัดวิชุนราชนี้สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ภายในวัดวิชุนราชมีปทุมเจดีย์หรือพระธาตุดอกบัวใหญ่ ซึ่งพระนางพันตีนเชียง พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯให้สร้างขึ้นในพ.ศ. 2057 หลังจากสร้างวัดแล้ว 11 ปี ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งทำให้ชาวเมืองหลวงพระบางเรียกว่า พระธาตุหมากโม
พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุมีลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย บริเวณมุมฐานชั้นกลางและชั้นบนมีเจดีย์ทิศทรงบัวตูมทั่งสี่มุม พระธาตุนี้มีสีดำเก่าๆ แม้จะเคยผ่านการบูรณะปฎิสังขรมาแล้วสองครั้ง ในปีพ.ศ.2402 รัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ อีก 19 ปีต่อมา ในปี พ.ศ.2457 ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์มีการปฎิสังขรอีกครั้ง ซึ่งการบูรณะครั้งนี้พบโบราณวัตถุมากมาย เช่น เจดีย์ทองคำ พระพุทธรูปหล่อสำริด (พระพุทธรูปทองคำ) พระพุทธรูปเงิน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่แกะสลักจากแก้วซึ่งคล้ายกับพระแก้วมรกต โบราณวัตถุเหล่านี้ได้นำถวายเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเก็บรักษาไว้ในพระราชวังหลวงพระบางในปัจจุบัน
จากนั้นพาท่านเข้าชมพระราชวังเจ้ามหาชีวิตแห่งอาณาจักรล้านช้าง ชมเครื่องราชบรรณาการที่ชาวต่างต่างชาตินำมาถวาย พระมหากษัตริย์ในสมัยก่อน เข้าชมวัดเชียงทอง วัดหลวงประจำราชวงศ์ลาว ที่ทั่วโลกยกย่องให้เป็นเพชรยอดมงกุฎแห่งล้านช้าง ชมลายคำที่วิจิตร บรรจง แต่ละภาพเล่าเรื่องพุทธประวัติและตำนานโบราณของหลวงพระบาง จากนั้นเดินไปด้านหลัง ชมโรงเก็บราชรถไม้ แกะสลักปิดทองของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระมหากษัตริย์แห่งเมืองหลวงพระบาง วัดเชียงทอง วัดที่เก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณแม่น้ำคานไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้คือสิม หรือ พระอุโบสถที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมงล้านช้าง ได้อย่างวิจิตรงดงามจนได้รับการยกย่องให้เป็น อัญมณีแห่งล้านช้าง นอกจากนั้นวัดเสียงทองยังมีหอพระม่านที่ประดิษฐานผพระม่านหนึ่งในสามพระพุทธรูปที่สำคัญของเมืองหลวงพระบาง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารที่ Bio bamboo leuangphabang (มื้อที่ 5)
นำท่านเดินทางเข้าสู่สถานีรถไฟหลวงพระบาง
13:53น. ออกเดินทางจากสถานีรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนหลวงพระบางสู่สถานีรถไฟเมืองวังเวียง เดินทางพร้อมชมวิวจากเมืองหลวงพระบางผ่านเมืองกาสี บริเวณนี้คือเส้นทางที่สวยที่สุดของประเทศลาว นั่งรถไฟต่อไปเมืองวังเวียงง
14:53น. เดินทางถึงสถานีรถไฟฟ้าเมืองวังเวียง
15:30น. นำท่านชมถ้ำนางฟ้าแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเมืองวังเวียงภายในมีหินงอกหินย้อยรูปทรงแตกต่างกันไปห่างจากตัวเมืองวังเวียงประมาณ 2 กิโลเมตร
เย็น ทานอาหารค่ำริมแม่น้ำซอง (มื้อที่6) ร้านริเวอร์วิว ร้านอาหารชื่อดังของคนท้องถิ่น เป็นอาหารพื้นเมือง อาหาร ไทยอร่อยๆและซิ้นดาดที่มีทีเด็ดเป็นน้ำจิ้มถั่วไข่ต้ม มีรสชาติที่อร่อยมากเป็นเอกลักษณ์พิเศษแบบชาวลาว
ร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรม บริการคาราโอเกะ และเต้นบาดสโลบ กับสาวชาวลาวเมืองวังเวียง
นำท่านเข้าโรงแรมที่พัก Thavisouk Riversides หรือ Vansana Vang Vieng Hotel หรือเทียบเท่า
เช้า รับวันใหม่ ทานอาหารเช้าที่โรงแรม (มื้อที่10) ตื่นสายๆ
นำท่านร่วมกิจกรรมทางน้ำ ล่องเรือหางยาวในแม่น้ำซอง ดูวิถีริมน้ำซอง ชมวิวทิวทัศน์เมืองวังเวียง หรือ
ท่านใดจะเลือกบริการเสริม(มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม) พายเรือคายัค หรือห่วงยาง ล่องแม่น้ำซอง ก็ได้
จากนั้นนำท่านกินกาแฟริมฝั่งแม่น้ำซอง (ค่ากาแฟไม่รวมในรายการ) หรือเลือกไปเที่ยวชมบลูลากูน ที่นี่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวมากมาย มีร้านอาหารหลายแบบ มีที่เล่นน้ำทั้งแบบธรรมชาติและแบบสระทันสมัย มีกิจกรรมที่ท้าทาย เช่น โหนสลิง พายเรือล่องแก่ง (กิจกรรมพายเรือล่องแก่งเป็นกิจกรรมพิเศษไม่อยู่ในแพ็คเกจทัวร์)
13.00 น.อำลาเมืองวังเวียงเดินทางจากเมืองวังเวียงผ่านเมืองโพนโฮงกลับเข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์
สำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ตามเวลาที่เหมาะสม เช่น หอพระแก้ว สวนพระ เวียงจันทน์เซนต์เตอร์ หอพระแก้วถูกสร้างขึ้นตามรับสั่งของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช หลังย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมาที่
เวียงจันทน์ เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ที่ได้อัญเชิญมาจากนครเชียงใหม่ ต่อมาพระแก้วมรกตได้ประดิษฐานที่นี่เป็นเวลากว่า 200 ปี จนกระทั่งกองทัพสยามเข้ามา เจ้าพระยาจักรีซึ่งต่อมาคือรัชกาลที่1แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้อัญเชิญย้ายพระแก้วมรกตจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปไว้ที่กรุงธนบุรี(โปรแกรมเสริมเมื่อมีเวลาในการท่องเที่ยวและเป็นความสมัครใจ)
อำลานครหลวงเวียงจันทน์เดินทางมาที่ด่านลาวไทย แวะช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ก่อนข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่หนองคายเพื่อเดินทางต่อไปเดินทางกลับ โดยสวัสดิภาพพร้อมกับภาพความประทับใจ
หมายเหตุ: โปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม
………………………………………………………………………………………………….
อัตราค่าบริการรวม ค่าบริการ ราคา 10,998.- ไม่รวมค่าทิปไกด์ และคนขับรถ 300.-
-ค่าอาหารตามที่ระบุอยู่ในรายการ
-ค่าโรงแรมที่พักที่ระบุในโปรแกรม พักห้องละ2ท่าน
-ค่าจ้างหัวหน้าทัวร์ไทย ไกด์ท้องถิ่น ผู้ช่วยไกด์
-ค่าตั๋วรถไฟ
-ค่ารถรับ-ส่ง ตามสถานที่ท่องที่ท่องเที่ยวในโปรแกรม
-ค่าบัตรเข้าชมสถานที่ต่างๆ และกิจกรรมที่ระบุอยู่ในรายการ
-ค่าประกันภัยการเดินทาง วงเงินท่านละหนึ่งล้านบาท ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
อัตราค่าบริการไม่รวม
-ค่าใช้จ่ายส่วนตัว นอกจากรายการที่ระบุ เช่น มินิบาร์ค่าโทรศัพท์ ค่าทิปยกกระเป๋า ค่าอาหารและเครื่องดื่มพิเศษ
-ค่ารถรับส่งนอกสถานที่ นอกเหนือจากรายการท่องเที่ยวปกติ
-ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย3% (กรณีขอใบกำกับภาษี)
ข้อมูลการท่องเที่ยว
-การเข้าพักห้องพักที่โรงแรม กรุณาแจ้งสเป็คก่อนเดินทาง เพื่อทีมงานจะได้เตรียมให้ท่านได้ตามต้องการ
-หากท่านใดต้องการอาหารแบบไหนเป็นพิเศษ กรุณาแจ้งก่อนเดินทางอย่างน้อย7วัน
-เงื่อนไขการให้บริการ เที่ยวการเดินทางรถไฟ ราคาแพ็คเกจและรายการท่องเที่ยว บริษัทสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
เอกสารประกอบการเดินทาง
-พาสปอร์ตตัวจริง ที่มีอายุการใช้งานได้อีกมากกว่า 6 เดือน ต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าเต็ม
การชำระเงินและการจองทัวร์
-ชำระเงินมัดจำตามที่ตกลง ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 10 วัน